
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 ณ ศาลาอเนกประสงค์ วัดท่าเรือ อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต มูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช จัดพิธีมอบทุนการศึกษาแก่นักเรียนและนักศึกษา ครั้งที่ 29 ประจำปี 2568 โดยมี นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ประธานมูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช เป็นประธานในพิธีมอบทุน พร้อมด้วยครอบครัววานิช คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง นักเรียน และนักศึกษาเข้าร่วมในพิธีอย่างอบอุ่นและเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร ประธานมูลนิธิฯ กล่าวถึงที่มาของการก่อตั้งมูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช ว่า มูลนิธิฯ เกิดขึ้นจากดำริของ คุณแม่บุญรอด วานิช ผู้มีจิตศรัทธาและความตั้งใจที่จะ “ให้โอกาสทางการศึกษา” แก่เด็กและเยาวชนในจังหวัดภูเก็ตที่มีความประสงค์จะเรียนต่อ แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยต้องการให้เยาวชนเหล่านี้ได้รับการศึกษาที่ดี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเติบโตเป็นคนดี มีประโยชน์ต่อสังคม
มูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2539 โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนและนักศึกษาที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงการส่งเสริมงานด้านวัฒนธรรมและดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ
มูลนิธิฯ เริ่มมอบทุนการศึกษาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 28 ครั้ง จำนวน 702 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,619,000 บาท โดยในปี 2568 นี้ มีการมอบทุนจำนวน 20 ทุน ให้แก่เยาวชนที่อยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ รวมถึงนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและนักศึกษาในระดับอุดมศึกษา ที่มีผลการเรียนดีและผ่านการคัดเลือกตามคุณสมบัติของมูลนิธิ โดยมูลนิธิจะให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
นางอัญชลี กล่าวเพิ่มเติมว่า “ดิฉันขอให้เยาวชนทุกคนที่ได้รับทุนในวันนี้ ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนให้เต็มกำลังความสามารถ มีความมานะ อดทน และไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพื่อให้สำเร็จการศึกษาและสามารถเป็นพลเมืองที่ดีของชาติ สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้แก่ครอบครัว สถาบันการศึกษา และจังหวัดภูเก็ตของเรา”
ในโอกาสนี้ ประธานมูลนิธิยังได้อัญเชิญ พระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตแก่เยาวชนผู้ได้รับทุน โดยพระบรมราโชบายเน้นการพัฒนาผู้เรียนให้มีพื้นฐาน 4 ด้าน ได้แก่
1. มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง — รู้จักหน้าที่ของตน ยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมีจิตใจเอื้ออาทรต่อครอบครัวและชุมชน
2. มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงและมีคุณธรรม — แยกแยะสิ่งที่ถูกและผิด ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดีงาม เพื่อเป็นคนดีของสังคม
3. มีงานทำ มีอาชีพสุจริต — รักงาน ขยัน อดทน ทำงานจนสำเร็จ สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้
4. เป็นพลเมืองดีของสังคม — มีจิตอาสา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมและประเทศชาติ
“ขอให้นักเรียนและนักศึกษาทุกคนยึดถือพระบรมราโชบายนี้ไว้เป็นแนวทางดำเนินชีวิต ตั้งใจเรียน ประพฤติตนเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ เป็นศิษย์ที่ดีของครูอาจารย์ และเป็นพลเมืองดีของชาติ เพื่ออนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน” นางอัญชลีกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ภายในพิธีได้มีการมอบทุนการศึกษาอย่างเป็นทางการ พร้อมตัวแทนนักเรียนและผู้ปกครองขึ้นกล่าวแสดงความซาบซึ้งใจและขอบคุณมูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช ที่ได้มอบโอกาสสำคัญทางการศึกษาให้แก่เยาวชนภูเก็ตมาอย่างต่อเนื่องตลอด 29 ปี อันเป็นแบบอย่างแห่ง “การให้เพื่อสร้างคนดีและคืนคุณค่าสู่สังคม”.


















