
เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ที่โรงแรมอังศนา ลากูน่า ภูเก็ต สมาคมโรงแรมภูเก็ต ร่วมกับ C9 Hotelworks และ Greenview จัดการประชุม Phuket Hotels for Islands Sustaining Tourism (PHIST 2025) ซึ่งนับเป็นเวทีด้านสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 1,300 คน จากภาครัฐ ภาคเอกชน และนานาประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยที่กำลังซบเซาปัญหาสิ่งแวดล้อม – คอขวดสำคัญของภูเก็ต
ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวเปิดงาน โดยระบุว่า จังหวัดกำลังเผชิญความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ทั้ง ปริมาณขยะเกินกำลังการจัดการ น้ำเสียที่ไหลลงทะเล น้ำดีไม่เพียงพอ และปัญหาจราจร ซึ่งไม่เพียงกระทบคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวผู้ว่าฯ แนวทางการแก้ปัญหา ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่ การสร้าง โรงเตาเผาขยะและโรงคัดแยกใหม่ เพื่อรองรับปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้น, การวาง ระบบบำบัดน้ำเสียใหม่ 9 จุด เพื่อลดผลกระทบต่อทะเลและชายหาด, การวางแผน นำน้ำดิบจากเขื่อนเชี่ยวหลาน เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ และการเสนอให้ภูเก็ตมีรูปแบบการปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษ เพื่อให้อำนาจการตัดสินใจและการจัดการทรัพยากรเป็นไปอย่างยืดหยุ่นและตรงกับสภาพความต้องการของพื้นที่
“ภูเก็ตต้องการเครื่องมือที่แข็งแรงกว่าระบบปกติ เราไม่สามารถใช้โครงสร้างเดิมจัดการปัญหาที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้ การปกครองท้องถิ่นรูปแบบพิเศษจะทำให้เรามีอำนาจและความคล่องตัวเพียงพอในการดูแลทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม” นายโสภณกล่าว
การท่องเที่ยวไทยซบเซา – ความท้าทายใหม่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยยังต้องเผชิญความท้าทายจาก จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง แม้ภูเก็ตจะเคยสร้างความสำเร็จในช่วงวิกฤตโควิดด้วย โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ แต่ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดโลกทวีความรุนแรง และนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ต่างมองหาประสบการณ์ที่ยั่งยืนและใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเวที PHIST จึงเน้นย้ำว่า การฟื้นฟูท่องเที่ยวไทยไม่สามารถพึ่งเพียงการทำตลาดหรือจำนวนผู้มาเยือน แต่ต้องใช้ “ความยั่งยืน” เป็นกลไกหลักในการดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพภาคเอกชนหนุนผลลัพธ์ที่วัดผลได้
นายวิลเลียม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ซึ่งบริหารโรงแรมกว่า 640 แห่งใน 65 ประเทศ ย้ำว่า ธุรกิจท่องเที่ยวต้องไม่หยุดที่ “ผลกำไร” แต่ต้องสร้าง “ผลลัพธ์” ที่ตอบโจทย์สิ่งแวดล้อมและชุมชนเขาระบุว่า ไมเนอร์ดำเนินธุรกิจบน 3 เสาหลักคือ ผู้คน ธรรมชาติ และความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมตั้งเป้าสนับสนุนผู้คนกว่า 3 ล้านคนภายในปี 2573 ผ่านการพัฒนาทักษะแรงงานและการทำงานร่วมกับชุมชนอนึ่งนายวิลเลียม กล่าว ในระหว่างการรับรางวัล Green Giant Award อันเป็นการยกย่องบทบาทผู้นำด้านธุรกิจที่ยั่งยืนของเขา ว่า ภาพรวมที่สำคัญก็คือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทยกำลังซบเซาและจำเป็นต้องพลิกกลยุทธ์เพื่อสร้างพลังใหม่ในการนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวทั่วโลกสะท้อนเสียงจากอุตสาหกรรม
นายบิล บาร์เน็ตต์ กรรมการผู้จัดการ C9 Hotelworks และผู้ร่วมก่อตั้ง PHIST ย้ำว่า การท่องเที่ยวที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ ภาครัฐ เอกชน และชุมชนเดินไปด้วยกัน“โรงแรมไม่อาจเติบโตได้ หากชุมชนเจ้าบ้านไม่เติบโตไปด้วยกัน” นายบาร์เน็ตต์กล่าว พร้อมชี้ว่าการมีส่วนร่วมของชุมชนและผลลัพธ์ทางสังคมเชิงบวกคือสมรภูมิใหม่ที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องหันมาให้ความสำคัญ
PHIST 2025 – เวทีสร้างการเปลี่ยนแปลงภายในงานจัดเวทีเสวนากว่า 25 หัวข้อ กิจกรรม แฟชั่นโชว์เพื่อความยั่งยืน ฟาร์มทูเทเบิล และพิธีมอบรางวัลเชิดชูแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนตอกย้ำว่า “สิ่งแวดล้อม ชุมชน และการท่องเที่ยว ต้องเติบโตไปด้วยกัน”ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมที่ทำลายสถิติ และการสนับสนุนจากองค์กรชั้นนำระดับโลก PHIST 2025 ได้ยืนยันว่า ความยั่งยืนไม่ใช่เพียงคำสร้างกระแส แต่คือ หัวใจสำคัญของการฟื้นฟูและยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่อนาคต


















