ในระหว่างวันที่ 17 – 18 พ.ย. 2567 กรมการท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา จัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ ภายใต้โครงการส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวลดคาร์บอน (Low Carbon Tourism) เส้นทางเชื่อมโยงจังหวัดภูเก็ต-พังงา ซึ่งเป็น 1 ใน 11 เส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ ประกอบด้วย เส้นทางขอนแก่น – ชัยภูมิ, อุดรธานี – หนองคาย, เลย – เพชรบูรณ์, จันทบุรี – ตราด, กาญจนบุรี – ราชบุรี, สมุทรสงคราม – สมุทรสาคร, เชียงราย – พะเยา, เชียงใหม่ – ลำปาง, อุทัยธานี – นครสวรรค์, กระบี่ – สุราษฎร์ธานี และภูเก็ต – พังงา
สำหรับกิจกรรมประชาสัมพันธ์ต้นแบบเส้นทางท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ เส้นทางเชื่อมโยงภูเก็ต-พังงา นำโดย น.ส.สุมลมาลย์ เหมาะประไพพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาบริการท่องเที่ยว กองพัฒนาบริการท่องเที่ยว และมี นางพิศมัย วงศ์แก้ว ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพังงา, น.ส.จุรีย์พร จิตรโสภา พนักงานการตลาด 6 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา, เจ้าหน้าที่กรมการท่องเที่ยว ตัวแทนชุมชน, สื่อมวลชน ใน จ.ภูเก็ต และ จ.พังงา และ Influencer ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 40 คน
โดย มุ่งหวังให้นักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการทุกภาคส่วน และชุมชนท่องเที่ยว เกิดความตระหนักรู้ในเรื่องการลดก๊าซคาร์บอนที่เกิดจากทุกกิจกรรมในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สร้างการมีส่วนร่วมเพื่อรับผิดชอบต่อส่วนรวมของคนในพื้นที่ สร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวให้เชื่อมโยงกันทั่วประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและยั่งยืนอย่างแท้จริงตามกระแสและกฎระเบียบใหม่ของโลก
เริ่มต้นกิจกรรมวันแรก มด้วยการสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน หลาดลองแล ต.บางนุ อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา ซึ่งเป็นตลาดที่รวมสินค้าชุมชน อาหารพื้นเมืองและวัฒนธรรมท้องถิ่น ผลผลิตและสินค้าทางการเกษตร และยังเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลกด้วยการลดการใช้ถุงพลาสติกในการหุ้มห่ออาหาร ด้วยการนำวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่น เช่น ใบตอง มาใช้แทน หรือหากจะใช้ก็เท่าที่จำเป็น รวมทั้งยังมีสถานีคัดแยกขยะ นับเป็นความโชดคีที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทำบุญตักบาตรบริเวณหน้าตลาดฯ
ก่อนเดินทางต่อไปยังชุมชนท่องเที่ยวบ้านสามช่องเหนือ ซึ่งตั้งอยู่กลางน้ำของอ่าวพังงา หมู่ 9 ต.กะไหล อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเลือกหลายรูปแบบ ซึ่งในส่วนของคณะฯ ได้ล่องเรือแคนนู ดูปูแสม ศึกษาระบบนิเวศป่าชายเลน ชมอุโมงค์ป่าโกงกาง ร่วมคืนความสมบูรณ์ให้ท้องทะเลด้วยการปล่อยปูม้า ต่อด้วยการขึ้นฝั่งไปชุมชน ฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับชุมชน
ต่อด้วยการทดลองปรุงแกงหอยกันยอดเป้ง ซึ่งเป็นเมนูแกงกะทิขึ้นชื่อของชุมชนที่หาทานได้ยาก ใช้วัสดุดิบจากชุมชนเป็นหลัก และเป็นเมนูพื้นบ้านที่คนสมัยโบราณ นิยมรับประทาน เพื่อเสริมสร้างสุขภาพแม่หลังคลอดบุตร รักษาภายในให้กระชับ ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ส่วนผู้ชายก็ทานดี ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และทดลองทำขนมโมจิสามช่อง ซึ่งเป็นขนมโมจิประยุกต์ ไส้มะพร้าวอ่อนกับไส้ถั่วเหลือง จากนั้นเดินทางเข้าพัก ที่บ่อแสนวิลล่า รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่อยู่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติและขุนเขา
ส่วนวันสอง มีกิจกรรมให้เลือก 2 เส้นทาง คือ เดินทางไปยังกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านโคกไคร ทำกิจกรรมพอกโคนร้อน กับเส้นทางเหมืองหินถ้ำทองหลาง จุดเช็กอินหนึ่งใน unseen พังงา เป็นวิวบึงน้ำสีฟ้าอมเขียวขนาดใหญ่ ท่ามกลางป่าสนในหุบเขาสูงตระหง่าน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองหนาว จนได้รับฉายาว่า “สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย” จากนั้นไปต่อกันที่น้ำตกสระนางมโนราห์ ภายในวนอุทยานสระนางมโนราห์ เป็นป่าฝนที่มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถเล่นน้ำกันได้ตลอดทั้งปี และให้ความสำคัญกับเรื่องการคัดแยกขยะด้วย
ปิดท้ายเส้นทางนี้ด้วยการท่องเที่ยวในชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งมีนายสมยศ ปาทาน ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวย่านเมืองเก่าภูเก็ตให้การต้อนรับ และนำเที่ยวในเส้นทางที่กำหนด เริ่มจากการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าวิถีชีวิตของคนภูเก็ตที่ Woo Gallery and Boutique Hotel มีนายเผด็จ วุฒิชาญ นำเยี่ยมชม
จากนั้นไปเยี่ยมชมภายในตัวอาคารไชน่าอินน์ ก่อนเดินชมย่านเมืองเก่าภูเก็ต โดยรถบัส EV และปั่นจักรยานไฟฟ้าชมเมือง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดคาร์บอนและลดมลพิษ จากนั้นชมการสาธิตผัดหมี่ฮกเกี้ยนภูเก็ต การทำขนมอั่งกู้ และขนมอาโป้ง ขนมพื้นเมืองภูเก็ต ณ บ้านเลขที่ 92 พร้อมรับประทานก่อนจะแยกย้ายเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยสวัสดิภาพ
